วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สื่อสารอย่างสันติ...กับความเป็นจริง

การสอนไม่ใช่เพียงการบอกเล่า หรือนำพา

พี่หริ่งไม่ได้เพียงสอนทักษะ
แต่ เป็นให้ดู - อยู่ให้เห็น
การสังเกต รับรู้ความรู้สึก และแปลความต้องการ ของผู้เข้าร่วมที่ต่อว่ากระบวนการ
แล้วทบทวนย้อนกลับ เพื่อสอบถามเขาว่าเข้าใจถูกต้องไหม
ให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเรา รับรู้ – เข้าใจ - ยอมรับ ตัวตนของเขา
หน้าที่ของผู้นำกระบวนการคือการสื่อสารสิ่งเหล่านี้ให้กลุ่มรับรู้และยอมรับด้วย
แล้วถามต่อไปว่ามีใครรู้สึกเช่นนี้ด้วย และจะช่วยกันปรับยังไงให้ทุกคนพอใจ

“เราให้คุณค่ากับความต้องการของทุกคนเท่าเทียมกัน”
หลักการพื้นฐานของการสื่อสารอย่างสันติ
ตัวอย่างจากชีวิตจริง


การอบรม – สื่อสารอย่างสันติขั้นกลาง
เรือนร้อยฉนำ
5-7 ธันวา 51

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ความขัดแย้งที่งดงาม

“คลี่คลายความขัดแย้งด้วยสันติวิธี”
(หรือประมาณนี้)

เป็นคอร์สที่เราไม่เคยเข้า
เป็นเรื่องที่ไม่คุ้น และชอบหลีกหนี
อ่านสรุปอบรมครั้งก่อนๆ ก็เป็นตัวหนังสือที่ลอยผ่านไป...ไม่ซึมซาบสักนิด
แถมด้วยการป่วย เป็นไข้ เจ็บคอ ปวดท้อง
เลยขอเป็นคนบันทึกอย่างเดียว
คิดถูกมากๆๆๆ

เป็นการอบรมที่เนื้อหามากมาย
ซับซ้อน ท้าทาย
และเช่นเคย...สุดท้ายก็ต้องกลับมาดูตัวเอง เข้าใจตัวเอง คลี่คลายตัวเอง
เหมือนว่าปัญหาแทบทุกอย่างที่เจอ สุดท้ายก็ต้องกลับมาแก้ที่ตัวเอง

ขอบคุณพี่ๆผู้เข้าร่วมทุกคน ที่เป็นครูช่วยสอนบทเรียนที่มีชีวิตให้เรา
เคยได้ยินมาหลายครั้ง ว่าจริงๆแล้วผู้เรียนเป็นผู้สอนมากกว่ากระบวนกร
เพิ่งรู้สึกจริงๆครั้งนี้แหละ

ก่อนกลับ...ปิดวง
พูดความในใจ
ฟังผู้คนพูดถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ ความประทับใจ และแรงบันดาลใจไปทำสิ่งดีๆต่อ
เหมือนเป็นช่วง “รับค่าตอบแทน”
เงินที่ได้เป็นสิ่งที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิต ให้เรายังอยู่ได้
แต่คำพูดเหล่านี้แหละ คือสิ่งตอบแทน เป็นรางวัลที่แท้จริง

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วันสุดท้าย

เมื่อมีพบ ก็ต้องมีจาก
คำเก่าๆที่จริงเสมอ

เรามาขอร่วมงาน TOT จิตตปัญญารอบนี้
ด้วยความรู้สึกว่าอยากทำอะไรซักอย่างให้ได้ยังอยู่ในเครือข่ายนี้
อยากอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้
ยังไม่แก่หล้าพอที่จะเป็นกระบวนกรเต็มที่...ขอมาช่วยเป็นคนบันทึกละกัน

ตลอดการเดินทาง
มีทั้ง ตื่นตาตื่นใจ สนุก เบื่อ ง่วง เหงา ซาบซึ้ง
หลายครั้งที่รู้สึกเป็นคนนอก ท่ามกลางกลุ่มคนที่ผูกพันกันมากขึ้นๆ

วันสุดท้าย
กิจกรรมแรกของวันที่เชื้อเชิญให้ผู้เข้าร่วมมากอดกัน
เราเป็นผู้สังเกตการณ์...ที่วางตัวไม่ถูก
จนน้าติ๋มเข้ามาสวมกอดเราอย่างแนบแน่น
และอีกหลายๆคนที่ตามมา

จนท้ายสุดของการร่ำลา
ที่ทำให้เรารู้ว่า เราก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้ ในแบบที่เราเป็น
มิตรภาพอุ่นๆ ที่ทำให้มีน้ำตาอีกครั้ง
กอดสุดท้ายของพี่น้อง กับคำพูดเพียงว่า...อยากร้องก็ร้องไปเถอะ

พี่เล็กบอกว่า...
เมื่อเราเดินจากที่นี้ไป
สิ่งที่เหลือไว้มีเพียงความเหงา

หลังเดินออกจากห้องนั้น
ก็ไปค่ายต่อที่เพชรบุรี
วันนี้กลับถึงบ้าน...ความเหงาถึงเพิ่งมาทักทาย

อุ่นๆใจดีเหมือนกันนะ
เพราะความเหงา ทำให้รู้ว่าเราเคยได้สัมผัสรัก
และมีคนให้เราคิดถึง

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ลอยกระทง

ขอลอย...ความคลางแคลงสงสัย
ทั้งในความรักต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น และที่ผู้อื่นมีต่อเรา

ขอให้มีความเชื่อมั่นในความรักที่ไร้เงื่อนไข

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ลมหนาวแรก

ลมหนาวแรก
ภูเขามืด จันทร์สว่าง
มิตรภาพอุ่น

ลมหนาวมาถึงแล้ว
กับการจัดอบรมมาราธอนให้คณะนิติ ม.น. พิษณุโลก
เริ่มจากนิสิตปีหนี่ง 3 รุ่น
ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จบด้วยรอบอาจารย์ + เจ้าหน้าที่
เด็กรุ่นนี้เป็นเด็กประหลาดที่สุดที่เคยเจอมา
เข้าใจตัวเอง มีน้ำใจ ช่วยเหลือกัน และมีความซื่อตรงอย่างไม่น่าเชื่อ
(เล่นเกมส์ผิดกติกาไปนิดเดียว ก็เตือนกันเอง เริ่มใหม่ทั้งที่เราไม่ต้องบอก)
น่าปลื้มใจแทนผู้คนที่ช่วยหล่อหลอมให้พวกเขาเป็นแบบนี้

รอบอาจารย์ + เจ้าหน้าที่
มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ได้เห็นคนที่ใส่ใจกันมากมาย แต่มีอะไรไม่รู้มาทำให้ไม่เข้าใจกัน ได้หันหน้าเข้าหากัน
ได้เห็นคนกอดกัน...เปิดใจ...มีน้ำตา
มิตรภาพสวยงามจัง
และแอบรู้สึกว่าอาจารย์คณะนี้แต่ละคนมีคาแรคเตอร์ดีเนอะ
เหมือนตัวการ์ตูน
เรียนที่นี่คงสนุก

ขอบคุณ...
น้องๆนิสิตที่เปิดใจเรียนรู้ เติมพลังแห่งความไร้เดียงสา และช่วยยืนยันว่าความดีงามยังคงอยู่ในตัวคน
คณะอาจารย์และเจ้าหน้าที่ กับการให้โอกาสเปิดรับ ความซื่อตรงที่สื่อออกมา และเสียงหัวเราะ
พี่เจน พี่เล็ก วี กานต์ กับการต้อนรับ ดูแลที่อบอุ่น
แนน เก๋ ที่ร่วมเดินทาง และอ้อมกอดที่ทำให้รู้ว่ายังมีคนที่รักเราเสมอ


ลมลูบไล้
กายตื่น ใจตื่น
เห็นความงามคนรอบตัว

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551

หวิว...หวิว

ใจหวิว หวิว....

บางทีก็เต้นแรงจนสะท้านไปทั้งตัว

บางทีก็เว้นจังหวะไปนาน เหมือนหยุดไปชั่วขณะ


เช้่านี้ทุกอย่างดูเปลี่ยนไป...

หนังสือที่หัวเตียง

ต้นไม้หน้าบ้าน

เพลง

แม้แต่เค้กชอคโกแลต...ก็ไม่เหมือนเดิม


วันนี้เป็นวันที่เรา

กล้าเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราทำได้

และควรทำมานานแล้ว


พยายามตามรู้ความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้น

เหมือนโตขึ้นมาก เพียงข้ามคืน



ดูแลตัวเองด้วยนะ

วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551

คืนวันที่หลากหลาย

วันที่ 8 ตุลาคม 2551....ควรค่าแก่การบันทึกอย่างยิ่ง


เริ่มต้นแต่เช้าตรู่ด้วยด่านสุดท้ายของภาระกิจทำหมันมา ที่ยาวนานกว่า 3 เดือน

พาเต้าฮวย (สมาชิกหมาแห่ง YIY) ไปตัดไหมที่โรงบาลสัตส์ เกษตร


เหนื่อยจัด + ดีใจมากที่ภาระกิจสำเร็จ + หิว

จึงไปฉลองมื้อใหญ่ที่ฟูจิเซ็นทรัลลาดพร้าว

ตามด้วยการมองหา notebook ตัวใหม่...ไถลไปนิดๆ


มาถึงวายไอวายบ่ายๆ

ทำงาน...ทำงาน...ทำงาน


ยามเย็นไปฟังเรื่อง "ชัมบาลา" และนั่งภาวนาร่วมกันนิดหน่อย

The Shambhala Legend of Enlightened Society:
Words of Wisdom for a World at War
With Richard Reoch
Wednesday October 8th, 2008
7:00 pm to 9:00 pm
ซอยไผ่สิงโต ข้างศูนย์สิริกิตย์

คุยเรื่อง compassion vs. agression

ความท้าทายของการดำรงอยู่กับสถานการณ์ความรุนแรง


อาหารเย็นแถวสีลมกับ นะผุย-นายตั้ม-ดง (เพื่อนตั้มผู้โด่งดัง)

คุยเรื่องความกดดันชีวิตชาวกรุง & มนุษย์เงินเดือน


ระหว่างทางกลับบ้าน...คุณน้องชายโทรมาบอกว่าร้องเพลงที่ร้านเสร็จแล้วกลับด้วยกันป่าว

ก็เลยหาที่นั่งรอ

จบลงที่ Budda Bar...โต๊ะหน้าเวที คืนเพลงร๊อค


ถึงบ้าน (ซะที)

พี่สาวบอกว่าต้องการความช่วยเหลือจากคนมีรถ ณ ราชดำเนิน

เตรียมการช่วยเหลือคนป่วย

รู้สึกครั้งนี้ไม่ไปไม่ได้

ออกจากบ้าน (ปทุมธานี) กับน้องชายอีกครั้ง


เฝ้าๆ รอๆ

โชคดีมิเกิดอะไร

จบภาระกิจด้วยข้าวต้มวัดบวรแสนอร่อย


กลับถึงบ้านพี่สาว

ล้มตัวลงนอน

เวลาเดียวกับที่ตื่นเมื่อเช้า

เหอๆๆๆ


จบวันที่หลากหลาย

กับการตามดูหลายหลากจังหวะของหัวใจ



ความรุนแรง ต้องไม่ถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรง

ทั้งกาย วาจา ใจ

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Good Morning

เริ่มเช้าวันใหม่

ด้วยกาแฟหอมๆ

กับบราวนี่แมคคาดาเมียนุ่มๆ


วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่ๆเลย



อรุณสวัสดิ์ค่ะ :)

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

รักคือ...

อย่าให้ใครเขาเป็นจ้าวชีวิตเธอ นะคนดี
เพราะเธอเกิดมาบนโลกอันเสรี...
.
จริงเหรอ
.
เราอยู่บนโลกที่เสรีได้.....
เราไม่ให้ใครมาควบคุมชีวิตเราได้....
???
.
แล้วทำไมทำไม่ได้ซะที
.
...................
.
ไปเจอข้อความเก่าๆในบันทึกจากการพูดคุยกับอ.น้อย - พี่สาวแสนรัก
“การรักคนที่น่ารักนั้นไม่ยาก
แต่การรักคนที่ทำตัวไม่น่ารัก
คนที่ทำร้ายเรา
หรือแม้แต่เมื่อเขาผลักไสความรักของเรา
ความรักที่ให้จนเจ็บนี้
ถึงจะเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไขอย่างแท้จริง
.......ด้วยรักจนหัวใจสลาย และยังฟื้นขึ้นมารักใหม่ได้อีกครั้ง”
.
ความรักแบบนี้
ที่เราเคยเชื่อถือ ยึดมั่นมาตลอด
ดีจริงๆแล้วหรือ
.
หรือมันทำเราเป็นคนแสนดี
และทำให้คนที่เรารัก รู้สึกว่าเขาเป็นคนเลวมากขึ้นกว่าเดิม
.
(ความรู้สึกจากการนอนดูหนังเรื่อง Memory of Mutsuko กับน้องแนน)
.
พระเจ้าคือความรัก ========== ความรักคือพระเจ้า ?
.
เหรอ????
.
……………………….
.
แล้วตัวเราล่ะ
อยู่ที่ไหนกัน
.
.
หายใจไม่ออก
ช่วยด้วย

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

วันอุ่นๆ

ในวันที่มันเดียวดาย
มองไปเห็นผู้คน
เดินชน เดินวนกันไป ในทุกๆวัน
มองดูผู้คนเดินเคียง
บางคนเดินคล้องแขนกัน
เห็นรักมากมาย
.
วันเงียบเหงา
ในวันที่มีแต่เรา
ไม่เหมือนอย่างเขา
ก็เราไม่มีใคร
.
จะมีไหมวันที่เจอใครซักคน
คนที่เขามีรัก ให้ชั้นรัก…รักจนหมดใจ
จะมีไหม ซักวันจะเจอใช่ไหม
คนที่ให้ชั้นรัก เขาอยู่ไหน เขาเป็นใคร…เมื่อไหร่จะเจอ
.
ในวันที่มันเดียวดาย
ใจกลับไม่เงียบงัน
โดดเดี่ยวอยู่ในคืนวัน ชั้นได้ยินอยู่
เพลงแห่งความหงาในใจ
จะมีใครไหมที่รู้
ได้ยินเหมือนกัน

วันเงียบเหงา ในวันที่มีแต่เรา
ไม่เหมือนอย่างเขา…ก็เราไม่มีใคร
.
จะมีไหมวันที่เจอใครซักคน
คนที่เขามีรัก ให้ชั้นรัก…รักจนหมดใจ
จะมีไหม ซักวันจะเจอใช่ไหม
คนที่ให้ชั้นรัก เขาอยู่ไหน เขาเป็นใคร…เขาคือใตร
.
เวลายังเดินอย่างช้าๆ ค่อยๆเดินไป
จนกว่าจะเจอ จะได้พบ
พบใคร
.
………….
.
เพลงของคุณน้องชาย
ที่โดนใจพอดีกับวาระนี้
.
เหงา แต่อบอุ่น
เศร้า แต่มีความสุข
.
รอคอย
อย่างมีความหวัง

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เปิดตัว

ถ้าคุณได้เข้ามาที่นี่ โดยไม่ได้บังเอิญหลงมา
แปลว่าคุณเป็นเพื่อนคนสำคัญของเรา


บ้านเดิม
http://blog.deksiam.com/au/